fbpx
Card image cap

ผวาแผนลดภาษี ส่งผลต่อเศรษฐกิจอเมริกา

ใครจะว่าไงก็ช่าง แต่ข้าจะทำ คงเป็นคติประจำใจของท่าน ทรัมป์ จริงๆ
เพราะแต่ละนโยบาย ดูจะไม่แค่สื่อ ไม่แคร์ใครทั้งนั้น
ข้าอยากทำอะไร ข้าก็จะทำให้ได้ โดยล่าสุดก็ดึงดันจะเดินหน้าแผนลดภาษี
แม้ว่าแผนลดภาษีของ นายโดนัล ทรัมป์ จะทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของอเมริกา แต่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วย

เพราะก็มีเสียงแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างมากมายเช่นกัน
เหตุเพราะเกรงว่าจะส่งผลเสียมากกว่าดี ตามที่เปิดเผยออกมานั้น จะมีการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีที่เก็บจากบริษัทต่าง ๆ
จาก 35% เหลือ 20 % ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 36.9% เหลือ 35% โดยทรัมป์อ้างว่านี่เป็นการลดภาษีครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของผู้เชี่ยวชาญเห็นว่านี่เป็นมาตรการที่มา “ผิดที่ผิดเวลา”
และแทบไม่มีความจำเป็นเลย เพราะว่าสภาพเศรษฐกิจไม่ได้มีความต้องการกระตุ้นขนานใหญ่เช่นนั้น เนื่องจากอัตราการว่างงานก็ลดต่ำลงที่สุดในรอบ 16 ปี
ไปอยู่ที่ 4.2 % ซึ่งถือว่าเป็นระดับปกติแล้

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็เตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ย และลดขนาดงบดุลลง หลังจากใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินมานาน
เพื่อโอบอุ้มเศรษฐกิจนับจากเกิดวิกฤตการเงินครั้งใหญ่เมื่อปี 2551 กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือเฟดกำลังจะแตะเบรกเศรษฐกิจ แต่ทรัมป์กลับจะเหยียบคันเร่ง
เดวิด เคลลี หัวหน้านักยุทธศาสตร์ระดับโลกของเจพีมอร์แกน ฟันด์ ชี้ว่า ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในขณะที่เฟดจะทำตรงข้าม “มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกัน ขอย้ำมีแต่คนโง่หรือวอชิงตันเท่านั้นที่ทำอย่างนี้”
เคลลีระบุว่า การลดภาษีให้กับบริษัทขนาดใหญ่อาจทำให้เกิดฟองสบู่ในตลาดหุ้น นอกจากนั้นหากเศรษฐกิจสะดุดขึ้นมาอีกครั้ง
จะทำให้รัฐบาลไม่เหลือเครื่องมือที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับ เอ็ด ยาร์เดนิ ประธานยาร์เดนิ รีเสิร์ช ซึ่งทำหน้าที่ให้คำปรึกษาการลงทุน บอกว่า
เศรษฐกิจสหรัฐขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นใด ๆ เลย ปฏิเสธไม่ได้ว่านับจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
พร้อมกับประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงินมหาศาล ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติสูงสุดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่ารวม 63 ครั้ง
จนทำให้เกรงว่าจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ ตามการประเมินของนักวิเคราะห์อิสระ เชื่อว่า แผนลดภาษีครั้งนี้จะมีมูลค่ารวมราว 6 ล้านล้านดอลลาร์
และจากการประเมินของศูนย์นโยบายภาษี การลดภาษีจะทำให้รายได้รัฐหายไป 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปี และปัญหาสำคัญก็คือจะไปเพิ่มหนี้
ของประเทศ ซึ่งขณะนี้สูงมากอยู่แล้วที่ 20 ล้านล้านดอลลาร์หรือเกือบ 80% ของจีดีพี สูงที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
นักเศรษฐศาสตร์อีกหลายคนตั้งคำถามว่า แผนลดภาษีของรัฐบาลจะกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มการจ้างงานชาวอเมริกันได้จริงหรือ
ในเมื่อบริษัทอเมริกันมีเงินสดเต็มไปหมดอยู่แล้ว ปัญหาขณะนี้คือการขาดแรงงานที่มีทักษะต่างหาก
แม้แต่ขาใหญ่ในวอลล์สตรีตอย่าง “วอร์เรน บัฟเฟตต์” แห่งเบิร์กเชียร์แฮตธะเวย์ ผู้โด่งดัง รวมทั้ง “ลาร์รี ฟิงค์” ซีอีโอบริษัทแบล็กร็อก
ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการทรัพย์สินใหญ่ที่สุดในโลก ก็ไม่ได้ดีใจไปกับการลดภาษี ทั้งยังเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องลดภาษีนิติบุคคลมากขนาดนั้น
“ผมมีธุรกิจหลายอย่าง และไม่คิดว่าจะมีธุรกิจไหนแข่งขันไม่ได้ในโลกนี้เพียงเพราะอัตราภาษี” บัฟเฟตต์ระบุ
และว่าเขาไม่เห็นด้วยเลยหากจะมีการนำภาษีอื่นมาใช้แทนภาษีอสังหาริมทรัพย์ เพราะนั่นจะเป็นการให้ประโยชน์แก่คนอเมริกันที่รวยที่สุดโดยไม่จำเป็น
ซีอีโอบริษัทแบล็กร็อก เห็นว่า อัตราภาษีนิติบุคคลที่ระดับ 27% ก็น่าจะทำให้ภาคธุรกิจของสหรัฐพอใจแล้ว
ขณะเดียวกันก็ช่วยหลีกเลี่ยงการขาดดุลงบประมาณของรัฐเพิ่มเติมได้ด้วย สิ่งที่ทรัมป์เสนอมาจะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณมากเกินไป
ทรัมป์และทีมงานอ้างว่าการลดภาษีจะคุ้มค่าแม้ว่าจะทำให้รายได้รัฐหายไป แต่ก็จะถูกชดเชยด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตและคนมีงานทำมากขึ้น
ทำให้รัฐเก็บภาษีได้มากขึ้น

#ภาษีอเมริกา #ซื้อขายทองคำแท่ง #ซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ #ทองคำ
#อินเตอร์โกลด์ #InterGOLD #ลงทุนทองคำแท่ง
สามารถติดตามบทวิเคราะห์ได้ที่:https://youtu.be/U5A8csxeO1Y
???? สนใจลงทุนทองคำแท่งหรือติดตามข่าวสารได้ที่
???? Website : www.intergold.co.th
???? Line : @intergold
???? Facebook : https://www.facebook.com/IntergoldPage/
☎️ Call : 02 – 2233 – 234



ราคาทอง
21 พฤศจิกายน 2567 | 22:41:44

ประเภท รับซื้อ ขายออก
LBMA
99.99% (Baht)
-

0.00

-

0.00

InterGold
96.5% (Baht)
-

0.00

-

0.00

สมาคมฯ
96.5% (Baht)
-

0.00

-

0.00

Gold Spot
(USD)
-

0.00

-

0.00

ค่าเงินบาท
(USDTHB)
-
-

0.00

ราคาทองคำย้อนหลัง
ความเคลื่อนไหวกองทุนทองคำ
21 พฤศจิกายน 2567 | 22:39:03

SPDR (ton) (USD) HUI (USD)
875.39

3.16

238.60

-0.43