สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) ด้วยแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจผลักดันแผนปฏิรูปภาษีได้สำเร็จภายในปีนี้ หลังนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาแสดงความคาดหวังว่า สภาคองเกรสจะผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเพื่อให้ปธน.ทรัมป์ลงนามรับรองก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1734 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1796 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3242 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3210 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7548 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7566 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.64 เยน จากระดับ 112.12 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9929 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9887 ฟรังก์สวิส
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังนายมนูชิน ขุนคลังสหรัฐ ออกมาเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เขาคาดว่ารัฐสภาสหรัฐจะสามารถผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเพื่อให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามรับรองได้ภายในวันคริสต์มาส หรือ 25 ธ.ค.นี้
ขณะที่สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลงจากสถานการณ์การเมืองในเยอรมนี หลังพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล คว้าน้ำเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่ายเมื่อวานนี้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนต.ค.จากเฟดชิคาโก และยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.