นายมาครง วัย 39 ปี กล่าวหลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่า ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสได้เปลี่ยนหน้าไปแล้ว เขาต้องการให้หน้าที่พลิกไปนี้ เป็นหน้าแห่งความหวังและความไว้เนื้อเชื่อใจ เขารับรู้ถึงความเดือดดาล วิตกกังวล และความคลางแคลงใจที่คนฝรั่งเศสแสดงออกมาให้เห็น และเขารับปากจะใช้เวลาห้าปีในการรับตำแหน่งต่อสู้กับความ แตกแยกที่เป็นเครื่องบั่นทอนประเทศ
นายมาครงกล่าวด้วยว่าเขาจะให้หลักประกันความเป็นหนึ่งเดียวของชาติ ในเวลาเดียวกันก็จะปกป้องและคุ้มครองยุโรป
ด้านนางเลอเปน กล่าวปราศรัยหลังรับทราบความพ่ายแพ้ โดยได้กล่าวขอบคุณชาวฝรั่งเศส 11 ล้านคน ที่ไปลงคะแนนให้ พร้อมกับชี้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง “ผู้จงรักภักดีต่อชาติและฝ่ายที่นิยมโลกาภิวัฒน์” นางเลอเปนประกาศว่าถึงคราวที่ตัวเธอเองและพรรคแนชันนัลฟรอนท์ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการเคลื่อนไหว โดยนางจะเป็นแกนนำในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมาถึง
ฮิว สโคฟิลด์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงปารีส รายงานว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาถือเป็นชัยชนะอันโดดเด่นของนายมาครง ผู้ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักของสาธารณชนเลยเมื่อสามปีก่อน แต่ด้วยความเชื่อในตนเอง ความมีพลังและสายสัมพันธ์ นายมาครงได้นำกลุ่มการเมืองของเขาก้าวไปอย่างมั่นคงและเข่นพรรคการเมืองกระแสหลักอื่น ๆ ของฝรั่งเศสให้ปราชัย