ปัจจัยที่ทำให้เงินงอกเงยในตลาดการลงทุน
วันนี้เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่ทำให้เงินงอกเงยกันนะครับ ว่าถ้าเกิดเราจะเริ่มลงทุนมีปัจจัยอะไรที่จะส่งผลให้เงินของเราเพิ่มพูนบ้าง และถ้าเกิดคุณไม่ลงทุนจะเสียโอกาสไปมากน้อยแค่ไหน วันนี้อินเตอร์โกลด์จะเล่าให้ฟัง…
ผมยกตัวอย่างของนักลงทุนระดับตำนานอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ นะครับ เค้าสามารถเสกเงินจาก 1,000 บาทเป็น 24,413,000 บาท ภายในระยะเวลา 53 ปี ซึ่งหากเรามาวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้เงินมันงอกขึ้นมาได้อย่างมหาศาลนั้น หลักๆ ประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยด้วยกันครับ ได้แก่
- ขนาดของเงินลงทุนตั้งต้น
เป็นอะไรที่ตรงตัวสำหรับข้อนี้ ที่ว่าคนที่มีเงินเริ่มต้น 10,000 กับ 1,000,000 บาทย่อมไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้วต่อให้คนที่มีเงิน 10,000 บาท ทำผลตอบแทนได้ 100 % ในปีนั้นก็เท่ากับแค่คนที่มีเงิน 1,000,000 บาท ทำผลตอบแทนในปีนั้นแค่1 % เท่านั้น แต่อย่าเพิ่งเสียใจไปเงินลงทุนตั้งต้น นั้นจะมีผลน้อยลงอย่างมากเมื่อเทียบกับอีก 2 ปัจจัยที่ผมจะกล่าวต่อไป
- ผลตอบเเทนที่ทำได้
ผลตอบแทนที่ทำได้นั้นมีจะมีผลสูงมากถ้ามีระยะเวลาที่มากพอ ถ้าคนที่มีหน้าตักตั้งต้นเท่ากันทำ % ผลตอบแทนที่ทำได้นั้นแม้จะต่างกันเพียง 1-2 % ก็จะส่งผลทำให้เงินที่ งอกเงยออกมาต่างกันอย่างมหาศาลหากเวลาผ่านไป
ผมขอพูดถึง “กฎของเลข 72” มาให้ดูเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น นะครับ กฎนี้บอกไว้ว่า ถ้าเอาเลข 72 ตั้ง แล้วเอาผลตอบแทนเฉลี่ยที่ คาดหวังต่อปีมาหาร ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นจำนวนปีที่เงินลงทุนเริ่ม ต้นจะเติบโตเป็น 2 เท่าด้วยดอกเบี้ยทบต้น (ไม่ได้มีการออมเงินเพิ่มใน ระหว่างทาง)
ตัวอย่างที่ 1 นำเงินไปฝากประจำกับธนาคาร 1 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยทุกปีปีละ 2% ใช้กฎ 72/2=36 ปี ก็จะได้เงิน กลับมาเป็น 2 ล้าน ย้ำอีกครั้งนะครับ ใช้เวลา 36 ปี !!
ตัวอย่างที่ 2 นำเงินไปลงทุนในทองคำได้ผลตอบแทนเฉลี่ย ต่อปีที่ 8% ใช้กฎ 72/8 = 9 ปี เท่านั้น
ท่านผู้อ่านคงจะพอเห็นภาพนะครับ ผลตอบแทน 2 % ใช้ เวลา 36 ปี ได้เงินกลับมา 2 ล้านบาท แต่ในทางกลับกัน ผลตอบแทนที่ 8 % ระยะเวลาเท่ากันคือ 36 ปี คุณจะได้ ผลตอบแทนกลับมาถึง 16 ล้านบาท เห็นได้ชัดเลยว่า ผลตอบแทนมีผลกระทบต่อเงินลงทุนอย่างมหาศาล
- ระยะเวลา
ปัจจัยสุดท้ายที่หลายคนมองข้ามไปก็คือ ‘เวลา’ นั่นเอง ซึ่งความจริงแล้วปัจจัยนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ทุกคนคงเคยได้ยินวลีที่ว่า “ออมก่อนรวยก่อน”
คำว่า “ออมก่อนรวยก่อน” ยังคงความคลาสสิกใช้ได้อยู่เสมอไม่ว่า จะยุคสมัยใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านำเงินไปลงทุนให้ถูกที่ถูกทาง เพราะ เมื่อไรที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ เราจะเห็นพลังอัตราดอกเบี้ย ทบต้นซึ่งก็คือผลของดอกเบี้ยของเงินตั้งต้น และดอกเบี้ยของดอกเบี้ยจะ โตขึ้นเรื่อยๆ จนคุณคาดไม่ถึงเลยแหละนี่ล่ะที่เรียกว่า “พลังของดอกเบี้ย ทบต้น”
ดังนั้นหากเราลงทุนด้วยระยะเวลาที่มากพอเงินของเราจะงอกเงย ออกมาอย่างมากมายแน่นอน หากเอาปัจจัยทั้ง 3 ข้อมาสรุปเป็นสมการ แล้วจะได้ออกมาดังนี้ครับ
“ เงินที่งอกเงยออกมา = [ เงินตั้งต้น x (1 + % ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ทำได้) ^เวลา ] – เงินตั้งต้น ”
มาลองดูตัวเลขจริงกันครับ
นาย A มีเงินตั้งต้น 100,000 บาท
ผลตอบแทนเฉลี่ย 8 % ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี
[100,000 x (1+0.08)^5 ] – 100,000 = เงินที่งอกออกมา = 46,932
ทีนี้เรามาลองดูเคสเปรียบเทียบกันดูครับ
- กรณี 1 เงินตั้งต้นเท่ากัน ระยะเวลาเท่ากัน แต่ผลตอบแทน ต่างกัน นาย A มีเงินตั้งต้น 100,000 บาทผลตอบเเทนเฉลี่ย 8 % ต่อปี ระยะเวลา 20 ปี
นาย A มีเงินตั้งต้น 100,000 บาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 8 % ต่อปี ระยะเวลา 20 ปี
นาย B มีเงินตั้งต้น 100,000 บาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 9 % ต่อปี ระยะเวลา 20 ปี
ทุกคนคิดว่าการที่ทำผลตอบแทนต่างกัน 1 % เป็นระยะเวลา 20 ปี สุดท้ายจะมีเงินที่งอกเงยต่างกันเท่าไรครับ ?
เงินที่งอกเงยของนาย A
= [100,000 x (1+0.08)^20 ] – 100,000 = 366,095
เงินที่งอกเงยของนาย B
= [100,000 x (1+0.09)^20 ] – 100,000 = 466,044
จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนที่ต่างกันเพียง 1 % ถ้าหากระยะเวลา มากพอนั้นเงินที่งอกเงยออกมาก็แตกต่างกันเยอะอยู่เหมือนกัน
- กรณี 2 เงินตั้งต้นไม่เท่ากัน ผลตอบแทนต่างกัน ระยะเวลา เท่ากัน
นาย A มีเงินตั้งต้น 1,000,000 บาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 5 % ต่อปี ระยะเวลา 20 ปี
นาย B มีเงินตั้งต้น 500,000 บาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 10 % ต่อปี ระยะเวลา 20 ปี
เงินที่งอกเงยของนาย A
= [1,000,000 x (1+0.05)^20 ] – 1,000,000 = 1,653,300
เงินที่งอกเงยของนาย B
= [500,000 x (1+0.1)^20 ] – 500,000 = 3,363,750
เห็นไหมครับว่าขนาดของเงินตั้งต้นนั้นมีผลน้อยกว่าผลตอบแทน ที่ทำได้และระยะเวลา
สรุป
สรุปสำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินงอกเงยก็คือตามรูปด้านบนนี้เลย ครับ โดยแกนตั้งคือจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น (เท่า) และแกนนอนคือระยะ เวลาที่ลงทุน (ปี) เช่น ถ้าลงทุนได้ผลตอบแทนปีละ 20 % 30 ปีเงินลงทุน จะเพิ่มขึ้น 237.38 เท่า แต่ถ้าได้ปีละ 15 % 30 ปี เงินลงทุนจะเพิ่มขึ้น 66.21 เท่า
ดังนั้นสำหรับคนที่เงินน้อยไม่ต้องเสียใจ ถ้าเรารู้จักการลงทุน ที่ถูกวิธีและอดทนให้ได้นานพอมันก็จะมีวันของเราเองและอย่าง ที่บอกครับว่าเวลาเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ก่อนจะจบบทไปก็อยาก ให้ทุกคนลองถามตัวเองดูว่าวันนี้เราพร้อมที่จะเริ่มลงทุนแล้วหรือ ยัง ถ้าพร้อมแล้วก็อย่ารอช้ารีบศึกษาและเริ่มลงทุนกันเลย!
ส่วนหนึ่งของวิธีการตั้งเป้าหมายในการลงทุนจากหนังสือ ” ลงทุนทองให้เป็น เล่นให้รวย “ โดยทีมงานเทรดเดอร์ Intergold