ย้อนรอยสงกรานต์เลือดของนักลงทุนทองคำ
เชื่อว่านักลงทุนทองคำที่อยู่ในตลาดลงทุนมาก่อนปี พ.ศ. 2556 คงจะจำเหตุการณ์นั้นได้ดี สงกรานต์ที่น่าจะเป็นวันหยุดของหลายๆคน กลับกลายเป็นวันที่นักลงทุนทองคำในขณะนั้นจำอย่างไม่ลืมเลือน
.
บางคนมองว่ามันเป็นวิกฤต เพราะช่วงนั้นนักลงทุนหลายคนมีสถานะฝั่งซื้ออยู่ในพอร์ตของตัวเอง แต่พอช่วงวันหยุดยาวมาถึง ราคาทองคำกลับโดนทุบอย่างหนัก
.
แต่ในขณะที่นักลงทุนทองคำบางคนก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาเลย เพราะมีการถือสถานะฝั่งขายไว้ในพอร์ต เมื่อตลาดเปิดทำให้ทองที่ขายไปในราคาแพง สามารถซื้อกลับมาได้ในราคาที่ถูกมากๆ
.
แต่จริงๆแล้วจะบอกว่ามันเป็นวิกฤตหรือโอกาสก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะจริงๆแล้วเราไม่มีทางทำนายได้เลยว่าช่วงสงกรานต์จะมีเหตุการณ์ที่ทองลงแรงๆ หรือผันผวนหนักๆ สิ่งที่เราทำได้มีเพียงแค่ปรับแผน ปรับพอร์ต เพื่อให้สามารถรองรับความเสี่ยงได้มากที่สุด จึงมองว่าในเหตุการณ์ครั้งนั้นมีเพียงแค่ผู้โชคดีและผู้โชคร้ายเท่านั้นเอง
.
เหตุการณ์ในวันนั้นมีอะไรเกิดขึ้น…วันนี้อินเตอร์โกลด์จะมาเล่าให้ฟัง
.
ย้อนกลับไปในวันที่ 12 เมษายน ปี พ.ศ 2556 ทองคำ Gold Spot อยู่ในโซนราคา 1560$ และราคาไทยอยู่ที่ประมาณ 21,500 บาท/บาททอง
.
แต่เมื่อถึงวันที่ 15 เมษายน ปี พ.ศ. 2556 ราคาทองคำ Gold Spot โดนทุบไปต่ำสุดที่ราคา 1330$ และราคาไทยอยู่ที่ประมาณ 18,300 บาท/บาททอง
.
เราจะเห็นได้ว่า เพียงระยะเวลาแค่ 2 วัน Gold Spot ร่วงกว่า 250 เหรียญ และราคาไทยโดนทุบกว่า 3,000 บาท
.
วันหยุดยาวของนักลงทุนที่ต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำได้แค่เพียงมองดูพอร์ตของตัวเองโดนทุบ โดยที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย จึงเป็นที่มาของชื่อ “ สงกรานต์เลือด “ ของนักลงทุนทองคำ
ปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้ทองคำถูกทุบในช่วงเวลานั้นหลักๆเลยก็คือ
“ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดส่งสัญญาณที่จะหยุดอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ หรือก็คือลดการทำ QE โดยสาเหตุมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงเวลานั้นมีแนวโน้มที่ดีมากๆ และอาจจะทำให้ดอกเบี้ยของสหรัฐฯกลายเป็นขาขึ้น “
.
เมื่อสัญญาณของปัจจัยนี้ถูกส่งออกมา ทำให้นักลงทุนในตลาดรีบเทขายทองคำออกมาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อเตรียมไปเข้าทำกำไรในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังมีแนวโน้มดีมากๆ และเมื่อราคาทองคำโดนทุบอย่างรวดเร็ว ประกอบกับอยู่ในช่วงวันหยุดยาว ที่นักลงทุนไม่สามารถเติมหลักประกันในพอร์ตได้ทัน ทำให้เกิดการ Force Sell หรือบังคับปิดสถานะ ยิ่งส่งผลให้ราคาทองร่วงหนักกว่าเดิม
.
ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของช่วงเหตุการณ์สงกรานต์เลือดที่นักลงทุนน่าจะจดจำได้ อย่างไม่มีวันลืม
.
และในส่วนของสงกรานต์ปี 2565 นี้ นักลงทุนควรรับมืออย่างไรมาฟังกันครับ
.
ปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่ามีความคล้ายกันกับในปี 2556 ในแง่ของนโยบายการเงินของเฟด ก็คือเฟดพยายามดึงเงินกลับ และยังจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในช่วงเดือน พ.ค. 2565 อีกด้วย
ดูแบบนี้เหมือนจะส่งผลเสียกับนักลงทุนทองคำอย่างมาก แต่ถ้าหากเรามองในแง่ของภาพรวมเศรษฐกิจในตอนนี้ เราจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจคงซึมไปอีกนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศหรือปัญหาเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดการกันว่า กว่าจะควบคุมเงินเฟ้อได้ ก็คงอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2566
สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำอย่างมาก ดังนั้น มุมมองในปี 2565 ของทองคำ จึงแตกต่างกับปี พ.ศ. 2556 อย่างสิ้นเชิง ซึ่งในปีนี้ทองคำไม่น่าจะลงแรงเหมือนปี พ.ศ 2556
แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่อินเตอร์โกลด์อยากจะแนะนำเพื่อนๆนักลงทุนทุกท่านเพื่อให้ได้พักผ่อนในวันหยุดยาวอย่างสบายใจ และมีความสุข ก็คือต้องเตรียมพอร์ตการลงทุนให้พร้อม..
- ไม่ถือสถานะในพอร์ต หรือพยายามถือให้น้อยที่สุด เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดความผันผวนในช่วงวันหยุดยาว
- บริหารความเสี่ยงของพอร์ตตัวเอง เพราะราคาทองคำในต่างประเทศยังคงมีความเคลื่อนไหว (อินเตอร์โกลด์เปิดให้บริการเพื่อรองรับความต้องการในการซื้อ-ขายของลูกค้าถึงวันที่ 14 เมษายน 2565)
- สำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาทองคำได้ และอยากจะเข้าทำกำไร ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่อยากให้เน้นเข้าสถานะฝั่งซื้อ และกำหนดจุด Cut loss เอาไว้ดีดี
และสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะทำอย่างไรให้ได้กำไรตลอดเวลา แต่คือเราจะรู้จักวางแผนอย่างไรให้มีความเสี่ยงที่มีเหลือน้อยที่สุดนั่นเอง