ทองคำส่อย่อตัว นักลงทุนเตรียมเข้าซื้อ
.
——————————————————————————————————————————————–
.
ตลาดทองคำในสัปดาห์นี้เผชิญกับความผันผวนสูงจากปัจจัยหลายประการ ทั้งความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเยอรมนี และสัญญาณบวกจากตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวแปรสำคัญที่มีอิทธิพลต่อทิศทางราคาทองคำ
.
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดคือสงครามการค้า สหรัฐฯ เตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากสหภาพยุโรป ทำให้เกิดความกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอาจทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งในอดีต เหตุการณ์เช่นนี้มักผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม มาตรการตอบโต้ทางการค้าจากฝั่งยุโรปก็อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม และสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำในระยะสั้น
.
ในขณะเดียวกัน การเมืองในเยอรมนีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องจับตามอง พรรคอนุรักษ์นิยมสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งและกำลังอยู่ในขั้นตอนจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนบางส่วน เนื่องจากมีความคาดหวังว่านโยบายของรัฐบาลชุดใหม่จะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ในการจัดตั้งรัฐบาล อาจทำให้ตลาดเกิดความผันผวน ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาทองคำในบางช่วงเวลา
.
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจช่วยหนุนราคาทองคำคือสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน การที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเริ่มเข้าซื้อที่ดินในราคาที่สูงขึ้นเป็นสัญญาณว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนอาจกำลังฟื้นตัว ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนกลับมาขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ก็มีแนวโน้มว่าความต้องการทองคำจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอุปสงค์ทองคำสูงสุดในโลก
.
นอกจากปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ นักลงทุนยังต้องจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใช้พิจารณาทิศทางอัตราดอกเบี้ย หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด อาจส่งผลให้ Fed มีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ ในทางกลับกัน หากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ตลาดอาจตีความว่า Fed ต้องคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง
.
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามอง การคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำในประเทศ
.
เมื่อมองในเชิงเทคนิค สัญญาณจาก MACD รายวัน เริ่มบ่งชี้ถึงโอกาสในการเกิดแรงขาย ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำเผชิญกับการปรับฐานในระยะสั้น โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 2,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับราคาที่นักลงทุนสามารถรอเข้าซื้อได้ อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางและระยะยาว ทิศทางของราคาทองคำยังขึ้นอยู่กับปัจจัยเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ซึ่งคาดว่าหากเงินบาทยังคงอ่อนค่า นักลงทุนที่ถือทองคำแท่งอาจได้รับประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน
.
โดยสรุป แม้ว่าราคาทองคำในระยะสั้นอาจเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยหลายด้าน แต่ในระยะยาว ทิศทางของเศรษฐกิจโลก รวมถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ระมัดระวังในการเข้าซื้อ และจับตาปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางราคาทองคำในอนาคต
.
รับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/5aO_0FsRQlI
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @intergold
คลิกที่ลิงค์สำหรับเพิ่มเพื่อน : https://page.line.me/intergold