ผ่านมาแล้วครึ่งปีไวเหมือนโกหก หลายคนคงอยากทราบว่าแล้วอีกครึ่งปีที่เหลือราคาทองคำจะไปทิศทางไหน วันนี้แอดมินจะสรุปตัวเลขของสหรัฐรวมถึงเหตุการณ์ที่สำคัญๆ ให้ทุกท่านได้ทราบเพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนทองคำกันในครึ่งปีหลังกันนะครับ ถ้าพร้อม…เราไปลุยกันเลยครับ
เริ่มด้วยเหตุการณ์สำคัญของสหรัฐที่ถือว่าเป็นการหักปากกาเซียนและพลิกกระดานโพลหลายสำนักอย่างเหนือความคาดหมาย กับการเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2017
หลังจากนั้นคุณป้าเยลเลนของเราก็ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบายตามคาดการณ์ที่ครั้งละ 0.25% เป็นจำนวน 2 ครั้งในเดือนมีนาคมและมิถุนายน เป็นการสร้าง Surprise ให้กับตลาดเป็นอย่างมากครับที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ต้นปีและ กลางปี เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยถึง 2 ครั้ง ท่ามกลางความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะแข็งแกร่งตามเป้าวันข้างหน้า ส่งผลให้ดอกเบี้ยเชิงนโยบายของสหรัฐปัจจุบันอยู่ที่ 1.25%
ยอดการนำเข้าสินค้าของสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสที่ 1 ของปี 2016 กับ 2017 พบว่ายอดการนำเข้าของสหรัฐไตรมาสแรกในปี 2017 มียอดการนำเข้าสูงขึ้นกว่าไตรมาสแรกในปี 2016 อยู่ที่ 195 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ดุลการค้าของสหรัฐติดลบมากขึ้น
เริ่มต้นด้วยยอดการส่งออกสินค้าของสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสที่1 ของปี 2016 กับ 2017 พบว่ายอดการส่งออกของสหรัฐไตรมาสแรกในปี 2017 มียอดสูงขึ้นกว่าไตรมาสแรกในปี 2016 อยู่ที่ 140 ล้านดอลลาร์เลยครับ นับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะการส่งออกสินค้าไปขายได้เยอะขึ้นแสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
GDP หรือตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของสหรัฐก็มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น โดยในเดือนเมษายนอยู่ที่ 1.1% พฤษภาคม 0.9% และมิถุนายน 1.2% นั่นแปลว่าเศรษฐกิจสหรัฐนั้นมีโอกาสขยายตัวขึ้นครับ
ด้านอัตราเงินเฟ้อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เฟดใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจในการขึ้นดอกเบี้ย โดยเฟดตั้งเป้าให้สหรัฐ มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2% ซึ่งเป็นระดับที่เฟดคิดว่าเหมาะสมที่สุดที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเกิดการขยายตัว จากข้อมูลพบว่า เดือนมกราคมเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% กุมภาพันธ์ 2.7% มีนาคม 2.4% เมษายน 2.2% และพฤษภาคม 1.9% จะเห็นได้ว่าเงินเฟ้อนั้นได้อยู่ในระดับที่เฟดคาดหวังไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐนั่นเอง อย่างไรก็ตามคุณป้าเยลเลนของเราเคยบอกว่าจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยจะต้องไม่สูงหรือต่ำจนเกินไปเพราะอาจจะส่งผลต่อการเศรษฐกิจได้
นับตั้งแต่การล่มสลายของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐปี 2006/2007 ที่หลายๆ คนมีที่อยู่อาศัยซึ่งรอการขายออกไป ข้อมูลนี้กลายเป็นข่าวที่ส่งผลต่อการเทรดสูงและยอดการขายบ้านใหม่ก็เช่นกัน จากข้อมูลครึ่งปีแรกในปี 2017 พบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อดูจากข้อมูลในเดือนมกราคม 599k, กุมภาพันธ์ 615k, มีนาคม 644k, เมษายน 593k และพฤษภาคม 610K
ปิดท้ายด้วยตัวเลขที่สำคัญลำดับต้นๆ ของสหรัฐเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ Non-Farm Payrolls หรืออัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่มีการประกาศทุกวันศุกร์ต้นเดือน ตัวเลขนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าคนอเมริกันมีงานทำเยอะขึ้นนั่นหมายถึงจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นนั่นเอง ตั้งแต่มกราคม 2017 จนถึงกรกฎาคม 2017 อัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนั้นเพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 220,000 ตำแหน่ง แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตนั้นมียอดการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นนั่นเองครับ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวเลขครึ่งปีแรกเท่านั้น ยังเหลืออีกครึ่งปีหลังที่อาจจะมีเหตุการณ์ หรือตัวเลข surprise ตามมา แต่ตัวเลขเศรษฐกิจก็ไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่ส่งผลต่อราคาทองคำ เพราะตัวเลขเศรษฐกิจเป็นเพียงตัวชี้วัดการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐเท่านั้น
ยังคงมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำอีก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองทั่วโลก หรือระบบเศรษฐกิจโลก ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ระหว่างนี้เรามาเอาใจช่วยประธานาธิบดี ทรัมป์ ให้บริหารเศรษฐกิจของสหรัฐให้แข็งแกร่งกับนโยบาย Make America Great Again และสุดท้ายอีกหนึ่งคนที่เราจะลืมไม่ได้เลยกับคุณป้าเยลเลน ประธานเฟดคนดีของเรา
ทั้งนี้นักลงทุนสามารถติดตามข่าวสารตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ บทวิเคราะห์ด้านการลงทุนทองคำ ได้ทุกวันจาก InterGOLD
#ซื้อขายทองคำแท่ง #ซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ #ทองคำ
#อินเตอร์โกลด์ #InterGOLD #ลงทุนทองคำแท่ง
สามารถติดตามบทวิเคราะห์ได้ที่: https://www.youtube.com/intergoldgoldtrade
สนใจลงทุนทองคำแท่งหรือติดตามข่าวสารได้ที่
Website : www.intergold.co.th
Line : @intergold
Facebook : https://www.facebook.com/IntergoldPage/
Call : 02 – 2233 – 234
