การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ใกล้จบหรือยัง?
===========================
ณ ตอนนี้การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ก็ยังถือว่าเป็นประเด็นร้อนที่ส่งผลให้ตลาดภาพรวมดูไม่ค่อยดีนัก
กระแสเงินต่างไหลไปเข้าสกุลเงินดอลลาร์ และพันธบัตร เพื่อรับผลตอบแทนที่มาในรูปของดอกเบี้ย และทำการเก็งกำไรในดอลลาร์กัน
ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของดอกเบี้ยหรือเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวเมื่อไร เราอาจได้เห็นการรีบาวด์ของหลายตลาดโดยเฉพาะตลาดทองคำ ที่ ณ ตอนนี้โดนการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์กดดันอยู่
คำถามคือ แล้วเมื่อไรดอกเบี้ยจะเริ่มชะลอตัวสักที…
.
ในหลายสำนักหรือแม้แต่ Fed เองก็มักจะให้จับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อในแต่ละเดือนว่ามีแนวโน้มลดลงไหม ซึ่งถ้าหากเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็จะเริ่มชะลอตัวลง แต่ถ้าเราสังเกตตัวเลขเงินเฟ้อตั้งแต่เดือนสิงหาคม-กันยายนปีนี้เป็นต้นมาจะเห็นว่า เงินเฟ้อแทบไม่ลดลงเลย อีกทั้งยังมีแนวโน้มขึ้นต่อไปอีกด้วย
.
แสดงว่าดอกเบี้ยก็น่าจะไม่ลดหรือชะลอตัวแล้วใช่ไหม?
.
เป้าหมายของ Fed คือการลดของเงินเฟ้อถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอันดับแรกเลย แต่ยังมีอีกปัจจัยนึงที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือเพดานของการขึ้นดอกเบี้ย ถ้าหากวัดเงินเฟ้อกับดอกเบี้ยแล้วอันที่จริงควรอยู่ในน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน เช่นตอนนี้เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 8% ดอกเบี้ยก็ควรอยู่ระดับที่ใกล้เคียงกันคือ 8%
แต่ในทางปฏิบัติแล้วทาง Fed ไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยพรวดเดียวถึงระดับนั้นได้ ไม่งั้นจะทำให้คนปรับตัวไม่ทันและส่งผลกระทบหนักกับตลาดการเงินเลยทีเดียว ฉะนั้นทุกอย่างมีเพดานของมันอยู่
ซึ่งในปี 2022 ที่จะสิ้นสุดเร็วนี้ๆ ทาง Fed เอง บวกกับธนาคารชั้นนำของโลก ต่างให้ตัวเลขดอกเบี้ยว่าน่าจะสิ้นสุดที่ 4.00-4.50% และเป็นที่แน่ชัดว่าการประกาศดอกเบี้ยที่จะถึงในวันพฤหัสฯ ที่ 3 พ.ย.นี้ เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปที 4.00% แน่นอนและตลาดก็จะจับตาการแถลงการณ์ของเฟดในวันนั้นว่าปลายปีนี้ ดอกเบี้ยจะจบที่ 4.00 หรือจะขึ้นอีก 0.5% หรือไม่ หากยังขึ้นต่อภาพรวมของตลาดก็อาจจะยังไม่กลับมารีบาวด์สวยๆในเร็ววัน แต่ก็อาจจะมีภาพที่ค่อนข้างโอเคอยู่ หากปลายปีหรือเดือนธันวาคมนี้ Fed ขึ้นเพียง 0.5% และจะดียิ่งกว่าหากเฟดไม่ขึ้นเลย แบบนี้ทุกตลาดอาจมีการรีบาวด์ที่สวยงามได้
.
โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% มีมากแค่ไหน ถ้าเรายึดจาก FOMC ECONOMIC PROJECTION ซึ่งเป็นการประมาณการณ์เพดานดอกเบี้ยปีนี้ หากตัวเลขอย่างการว่างงาน (Unemployment rate) หรือเงินเฟ้อ(PCE) อยู่ที่ระดับ 3.8% และ 5.4% ตามลำดับ ซึ่ง ณ ขณะนี้ ตัวเลขการว่างงานถือว่าดีกว่าที่คาดมากที่ 3.5% แต่สิ่งที่แย่กว่าคาดคือตัวเลขเงินเฟ้อ(PCE) ที่ตอนนี้อยู่ที่ระดับ 6.1% มากกว่าที่คาดไว้กว่า 0.7% ในเมื่อเงินเฟ้อยังมากกว่าที่คาดไว้ โดยส่วนตัวจึงมองว่าปีนี้ดอกเบี้ยน่าจะมีการขึ้นอีก 0.5%
ในเดือนธันวาคมเป็นแน่ เพราะการว่างงานก็ถือว่าอยู่ระดับต่ำ เรียกได้ว่าอยู่ในระดับการจ้างงานเต็มที่ (Full employment) เลยทีเดียว ดังนั้นเฟดมีข้ออ้างหรือเหตุผลพอที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเป็นแน่แท้
อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาดูการแถลงการณ์ของ Fed ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้ แต่หาก Fed ยึดตามตัวเลขจริงๆ เราคงยังไม่เห็นการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ในด้านตลาดทองคำ และตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร คงต้องบอกว่ายังไม่ได้ปลดล็อคขาขึ้นขนาดนั้น ยังอยู่ในด้านที่ซึมๆ และไม่ได้สดใส การรีบาวด์ต่างๆอาจยังมองได้เพียงเป็นการเทคนิคอลรีบาวด์ เพราะปัจจัยพื้นฐานยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ดังนั้นนักลงทุนช่วงนี้ ไม่ว่าจะตลาดไหน ก็พยายามขยักเงินทุนไว้ ลองเปลี่ยนมาเป็นการสะสมที่น้อย DCA ซื้อเฉลี่ยดูเพื่อถัวต้นทุน หรือเล่นเก็งกำไรระยะสั้น swing trade หรือ Scalp ไปก่อน รอทิศทางของ Fed และติดตามตัวเลขเงินเฟ้อแต่เดือนว่ามีการปรับตัวลงไหม ค่อยจัดหนักหลังทิศทางชัดเจนก็ยังไม่สาย ถ้าใครกลัวตกรถ ก็ค่อยๆสะสมไปก่อน อย่าเพิ่งวู่วาม