บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด (“บริษัทฯ”) ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมี จรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ มุ่งเน้นและตระหนักถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงานและบุคลากรของบริษัทฯ เป็นหลักการสำคัญ จึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
นโยบายฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งให้ผู้สมัครงานและบุคลากรของบริษัทฯ ทราบถึง วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการ ภายใต้วัตถุประสงค์ในการสมัครงาน หรือการจ้างงาน ต่อไป
1.นิยาม
1.1 ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
1.2 ผู้สมัครงาน หมายถึง บุคคลที่สมัครใจเข้ารับการคัดเลือกเป็นบุคลากรของบริษัทฯ
1.3 บุคลากร หมายถึง พนักงานประจำ ผู้ช่วยพนักงาน พนักงานชั่วคราว พนักงานสัญญาจ้าง หรือบุคคลอื่นใดที่ทำงาน หรือปฏิบัติหน้าที่ให้กับบริษัทฯ โดยได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นจากบริษัทฯ
เพื่อตอบแทนการทำงาน เช่น กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ หรือผู้ฝึกงาน เป็นต้น แต่ไม่รวมถึงผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ
1.4 เจ้าของข้อมูลส่วนข้อมูล (Data Subject) หมายถึง บุคคลใดๆ ที่ข้อมูลใดๆ ทำให้สามารถระบุตัวตนนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรืออ้อม
1.5 ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
2.ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ข้อมูลใดๆ ที่ระบุไปถึง “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ยกตัวอย่างเช่น
2.1.1 ชื่อ-นามสกุล
2.1.2 เลขประจำตัวประชาชน
2.1.3 เลขที่ใบอนุญาตขับขี่
2.1.4 เลขที่บัญชีธนาคาร
2.1.5 ที่อยู่ อีเมล เลขโทรศัพท์
2.1.6 ข้อมูลการประเมินผลการทำงานหรือความเห็นของนายจ้างต่อการทำงานของลูกจ้าง
2.2 ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเช่น
2.2.1 เลขทะเบียนบริษัท
2.2.2 ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล เช่น แฟกซ์ที่ทำงาน ที่อยู่ สำนักงาน อีเมลกลางของบริษัท เช่น [email protected] เป็นต้น
2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ยกตัวอย่างเช่น
2.3.1 ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา
2.3.2 พฤติกรรมทางเพศ
2.3.3 ประวัติอาชญากรรม
2.3.4 ข้อมูลสุขภาพร่างกายหรือข้อมูลความพิการ
2.3.5 ข้อมูลสหภาพแรงงาน
2.3.6 ข้อมูลชีวภาพ
2.3.7 ข้อมูลเชื้อชาติ
3.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯมีวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้สมัครงานและบุคลากรของบริษัทฯดังต่อไปนี้
3.1 เพื่อใช้พิจารณาประกอบการรับสมัครงาน การรับเข้าทำงาน หรือเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงาน ลูกจ้าง หรือบุคลากรของบริษัทฯ ตามสภาพการจ้าง หรือปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาหรือกฎหมาย และจะเก็บรวบรวมเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วย กฎหมาย และกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัทฯ เช่น กฎหมาย ธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายอื่นที่บริษัทฯต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เป็นต้น
3.2 เพื่อประโยชน์ของบุคลากรในการจ้างงาน ได้แก่ เพื่อการอนุมัติเงินเดือนและผลประโยชน์สำหรับบุคลากร เพื่อการทำจ่ายค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส และ/หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องให้แก่บุคลากร เพื่อการบริหารจัดการสวัสดิการและผลประโยชน์ของบุคลากร เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินศักยภาพและผลการปฏิบัติงานของบุคลากร หรือเพื่อการบริหารจัดการบุคลากรภายในบริษัทฯ เช่น การจัดโครงสร้างอัตรากำลัง การโอนย้าย การเปลี่ยนหน้าที่งาน การปรับระดับพนักงาน การเกษียณอายุ เป็นต้น
3.3 เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงาน บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร
3.4 เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย
3.5 เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคลากร และทรัพย์สินของบริษัทฯ
3.6 เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับ การศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัทฯ
3.7 หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข และเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวกับประโยชน์ต่อบุคลากรตามสภาพการจ้าง บริษัทฯ จะแจ้งให้บุคลากรทราบ และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามสภาพการจ้าง หรือการอื่นที่ได้ระบุไว้ หากนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้จะขอคำยินยอมเพิ่มเติม ซึ่งอาจให้หรือไม่ก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย
4.วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางหลายช่องทาง ซึ่งหมายรวมถึง
4.1 การรับข้อมูลที่ท่านให้โดยตรงกับบริษัทฯ ผ่านทางเอกสาร อีเมล เว็บไซต์รับสมัครงาน www.jobtopgun.com และ www.jobthai.com เป็นต้น
4.2 บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่น่าเชื่อถือ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริษัทข้อมูลเครดิต กรมบังคับ-คดี กระทรวงมหาดไทย โรงพยาบาล กลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัทฯ พันธมิตรทางธุรกิจ เป็นต้น ทั้งนี้ภายใต้กฎหมายที่กำหนดให้การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ และเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
5.ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็น หรือตามที่กฎหมายกำหนดและตามนโยบาย คู่มือต่างๆ ในเรื่องการจัดเก็บ ทำลายเอกสารต่างๆ ของบริษัทฯ ซึ่งเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทฯจะลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลออกจากฐานข้อมูลของบริษัทฯ หรืออาจเก็บไว้เป็นระยะเวลามากกว่านั้น หากเป็นกรณีที่มีเงื่อนไขตามสัญญา หรือมีเหตุอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้มีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมในฐานสัญญาและประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัทฯ
6.คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานตามภารกิจบริษัทฯ โดยข้อมูลที่ได้ทำการจัดเก็บนั้นได้คำนึงถึงความถูกต้อง ครบถ้วน และความเป็นปัจจุบันของข้อมูล
7.การใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 กรณีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน
ในการพิจารณาใบสมัครของผู้สมัครงาน บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานแก่ส่วนงานภายนอกเท่าที่จำเป็น เช่น โรงพยาบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อให้ได้ข้อมูล ประกอบการพิจารณาในการจ้างงาน นอกจากนั้น บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเท่าที่จำเป็นให้กับส่วนงานภายในบริษัทฯ เพื่อพิจารณาและเสนอตำแหน่งที่เหมาะสมกับผู้สมัครงานอันเป็นการเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้แก่ผู้สมัครงาน
7.2 กรณีข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร
7.2.1 บริษัทฯ จะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรภายในบริษัทฯ และในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของบุคลากรตามสภาพการจ้างเท่านั้น โดยจะเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้
1) หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่หรือใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล ตำรวจ โรงพยาบาล เป็นต้น
2) ผู้ให้บริการซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การให้บริการด้านความปลอดภัย การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นต้น
3) หน่วยงานรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน เช่น สถาบันการเงินอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัทประกัน โรงพยาบาลเอกชน เป็นต้น
7.2.2 บริษัทฯ จะดูแลมิให้ผู้ปฏิบัติงานใช้ เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใด
ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้แล้วหรือต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ให้บุคลากรทราบและได้รับความยินยอมจากบุคลากรแล้ว หรือเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลากรได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมก่อน
8.การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นอย่างดีตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดให้ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และ ผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ ต้องมีหน้าที่รักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานการรักษาความลับตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้
9.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรทราบ โดยสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น
9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม: ในกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) และมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีขอจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้การเพิกถอนความยินยอมอาจกระทบต่อสิทธิบางประการ
9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: มีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ส่งสำเนาข้อมูลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยแหล่งที่มาขอข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
9.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : มีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ
และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธี manual รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูล ส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการ manual และมี
สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
9.4 สิทธิขอคัดค้าน : มีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงาน ที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐาน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
9.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : มีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้ข้อมูล ส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวได้ หากเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดย ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
9.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : มีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ
อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ
หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : มีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8 สิทธิร้องเรียน : มีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากเชื่อและมีหลักฐาน การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
9.9 การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุ จำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หาก บริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ทราบด้วย
10.การปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการแก้ไขปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัว โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจจะแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติม เช่น วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่อยู่นอกเหนือจากนโยบายฉบับนี้ เป็นต้น
ทั้งนี้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับความเป็น ส่วนตัวจะมีผลใช้บังคับทันทีที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบตามวิธีการที่บริษัทฯ เห็นสมควร เว้นแต่
เป็นกรณีที่บริษัทฯ จะต้องได้รับความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย ซึ่งในกรณีเช่นนั้น การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือรายละเอียดอื่นใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวจะมีผลใช้บังคับเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากท่าน
11.ช่องทางการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม
ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทางดังนี้
- สามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ ดังนี้
ติดต่อบริษัทฯ : บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด เลขที่ 348 ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
- สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) ดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: อีเมล : [email protected] เบอร์โทร 02-223-3233 ต่อ 6214
- ช่องทางการขอใช้สิทธิ: Data Subject Request Form · (intergold.co.th)
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ มีนโยบายการยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลโดยยืนยันเป็นลาย ลักษณ์อักษรเท่านั้น
อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติม
ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) สำหรับลูกค้า