ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDP Now แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 2.7% ในไตรมาส 2 หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์, คำสั่งซื้อภาคโรงงาน และดุลการค้าสหรัฐ
การขยายตัวที่ระดับ 2.7% อยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.0% เมื่อวันที่ 3 ก.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.8% ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.5% หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ดี ยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวได้รับการจับตาว่าเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังรายงานว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในเดือนพ.ค. ขณะที่การส่งออกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
ทั้งนี้ สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 2.3% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ขาดดุล 4.76 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐจะลดลงสู่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
หากปรับค่าตามเงินเฟ้อ สหรัฐขาดดุลการค้าลดลงสู่ระดับ 6.28 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. จากระดับ 6.38 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
สหรัฐส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 1.92 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 ขณะที่นำเข้าสินค้าและบริการลดลง 0.1% สู่ระดับ 2.385 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น 14.4% สู่ระดับ 3.16 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.